รี:ซีโร่ รีเซทชีวิต ฝ่าวิกฤติต่างโลก Re:Zero รีเซทชีวิต ฝ่าวิกฤติต่างโลก เป็นอนิเมะแนวจิตวิทยา ดราม่า ระทึกขวัญ แฟนตาซี ที่ถูกดัดแปลงมาจากนิยายไลท์ โนเวล ซึ่งถือครองลิขสิทธิ์โดย Funimation และจัดทำโดยสตูดิโอ White Fox สตูดิโอที่สร้างอนิเมะน้ำดีมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Steins;Gate , Katanagatari , Hataraku Maou-sama! และอื่น ๆ อีกมากมาย
เนื้อเรื่อง รี:ซีโร่ รีเซทชีวิต ฝ่าวิกฤติต่างโลก
รี:ซีโร่ รีเซทชีวิต ฝ่าวิกฤติต่างโลก โดยเนื้อเรื่องคร่าว ๆ ของอนิเมะเรื่องรีซีโร่นั้นจะกล่าวถึง นัทสึกิ สุบารุ เด็กหนุ่มผู้ไม่สนโลก ชอบนั่งเล่นเกม หมกตัวอยู่แต่ในบ้านเป็นชีวิตจิตใจ อยู่มาวันหนึ่งในขณะที่เขากำลังเดินออกมาจากร้านสะดวกซื้อ ตัวเขาก็ได้พบเจอกับเหตตุการณ์ประหลาดเข้า นั่นก็คือ การถูกวาร์ปพามาต่างโลก ดินแดนที่ทั้งมนุษย์และสิ่งมีชีวิตรูปร่างแปลกตาได้มาอาศัยอยู่ร่วมกัน ตัวเด็กหนุ่มเองถึงแม้จะเจอเหตุการณ์ประหลาดแต่เขาก็ไม่ได้มีอาการตกใจอะไรมากนัก กลับคิดว่าเป็นโชคดีที่ตัวเองได้มาโผล่ต่างโลกเสียด้วยซ้ำไป จนแล้วจนรอด ด้วยความอวดดีของเด็กหนุ่มที่คิดว่าตัวเองเป็นผู้กล้า มีพลังวิเศษ เขาจึงได้ถูกพวกโจรแถวซอกตึกรุมทำร้ายจนตาย
แต่แทนที่ตัวเขานั้นจะตายสนิท ดันกลับมาโผล่ ณ จุดเดิมที่เขาวาร์ปมาต่างโลกซะงั้น จนทำให้เด็กหนุ่มเริ่มรู้ว่าตนนั้นมีพลังรีเซทชีวิต ถึงกระนั้นตัวเขาเองก็กลับไปโดนพวกโจรจ้องจะรุมกระทืบอยู่ดี แต่ครั้งนี้เด็กหนุ่มรอดมาได้ เพราะได้รับความช่วยเหลือจากเอลฟ์สาวที่มีชื่อว่า สเตล่า ด้วยความสำนึกในบุญคุณ สุบารุ จึงได้ถามเธอออกไปว่า มีอะไรให้ช่วยเพื่อตอบแทนหรือเปล่า ช่วงแรกเอลฟ์สาวไม่ได้ขอให้เขาช่วยอะไร แต่พอเธอได้พูดคุยกับสุบารุมากขึ้น จึงเปิดใจและขอร้องให้ตัวสุบารุช่วยออกตามหาของชิ้นหนึ่งถูกขโมยไป มันเป็นของชิ้นสำคัญ ที่จะต้องนำกลับมาให้ได้ ด้วยเหตุนี้เองทั้งสองจึงเริ่มออกตามหาของชิ้นนั้นด้วยกัน
เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป สุบารุ และ สเตล่า จะหาของชิ้นสำคัญเจอหรือไม่ แล้วชีวิตต่อจากนี้ไปในต่างโลกของเด็กหนุ่มจะมีอะไรรอเขาอยู่บ้าง ไปติดตามต่อกันได้ในอนิเมะที่มีชื่อว่า Re:Zero รีเซทชีวิต ฝ่าวิกฤติต่างโลก สามารถรับชมแบบถูกลิขสิทธิ์ในไทยได้แล้ววันนี้ผ่านทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น TrueID
รีวิวอนิเมะ
เนื้อเรื่อง : การดำเนินเรื่องช่วงแรกทำออกมาได้ห่วยมาก ๆ ทั้งช้า แล้วก็อืดยืดยาด พูดกันตามตรงตัวผมคงเลิกดูเรื่องนี้ไปแล้ว ถ้าไม่รู้จักกระแสการมาของเรมจัง (น้องเมดหัวฟ้า) ขอบ่นช่วงแรกก่อนคือช่วงที่ตัวเอกของเราออกไปตามหาของชิ้นสำคัญ ช่วงนั้นคือเบื่อการย้อนเวลากลับไปกลับมา รู้อยู่ว่าอยากจะสื่อให้คนดูเห็นความสามารถของตัวเอก แต่ก็ไม่ควรทำออกมาบ่อยขนาดนี้
ตอนที่พระเอกต้องวนลูปมาโดนโจรกระทืบตาย ช่วงนั้นไม่ต้องวนลูปบ่อยก็ได้ มันเบื่อ วนแค่รอบเดียวก็พอแล้ว และช่วงต่อสู้กับตัวร้ายตัวแรกของเรื่อง มันจะมีช่วงหนึ่งที่พวกพระเอกแพ้ และตายกันหมด แล้วกลับมาวนลูปเดิมอีกครั้ง การวนลูปรอบที่สอง ไม่จำเป็นจะต้องพูดถึงรายละเอียดมากก็ได้ เล่าย่อ ๆ แล้วข้ามไปคีย์หลักเลยจะดีกว่า
อีกหนึ่งอย่างที่ผมไม่ค่อยชอบในช่วงแรกของเนื้อเรื่อง คือการใส่ช่วงที่ไร้สาระลงไป ยกตัวอย่างเช่น มันมีตอนหนึ่งที่พระเอกจะต้องไปออกกำลังกายกับน้องเอลฟ์ที่สวนหน้าปราสาท แล้วเขาใส่ฉากการพูดคุยไร้สาระเข้ามาเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นการที่ตัวเอกพูดโชว์ฟอร์มตัวเองต่าง ๆ นานา มีการจีบกันกระหนุงกระหนิง… ฮัลโหล ! คือเราต้องการดูเนื้อเรื่องหลัก ไม่ได้มาดูตัวละครพูดคุยกันไร้สาระนะเฮ้ย กว่าจะเข้าเนื้อเรื่องหลักก็ปาไปเกือบจบตอน สรุปคือเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงที่เสียไป ไม่ได้อะไรเลย แทนที่จะเอาส่วนนี้มาใส่เนื้อเรื่อง กลับเอามาทำอะไรก็ไม่รู้
ช่วงกลางถึงท้ายของเนื้อเรื่องอันนี้ขอชมเชย แต่อาจจะมีตินิดหน่อยตรงที่ว่า ตัวเอกมันดูเติบโตแบบก้าวกระโดดเกินไป ทั้งที่ก่อนหน้านี้เราไม่เห็นการพัฒนาอะไรในตัวพี่แกเลย เช่น ช่วงแรกตัวเอกทั้งโง่ ซื่อบื้อ คิดน้อย แต่พอช่วงหลังเขากลับดูฉลาดขึ้น มีกลยุทธในการวางแผนมากขึ้น คิดเยอะขึ้น อย่างกับว่าไม่ใช่คนเดียวกัน มันเลยทำให้คนดูอย่างเราอาจจะขัดใจไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ขัดใจมากมายอะไร
อีกหนึ่งอย่างที่ต้องขอชมเนื้อเรื่องช่วงกลางเรื่องถึงท้ายเรื่องก็คือ ไม่มีการใส่อะไรไร้สาระเข้าไป ไม่มีการวนลูปจนดูน่าเกลียด ทำให้คนดูรับความสนุกและความลุ้นระทึกไปแบบเต็ม ๆ ช่วงที่ดูตอนนั้นคือติดจอมาก แทบไม่อยากลุกไปไหน เพราะมันลุ้นไปกับตัวละคร ว่าจะสามารถแก้ไขปมปัญหาที่ถาโถมเข้ามาได้หรือเปล่า สมกับเป็นอนิเมะแนวดราม่า จิตวิทยา และระทึกขวัญขึ้นมาทันที เพราะเขาอัดทั้งสามสิ่งนี้เข้ามาแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย
คุณจะได้เห็นวิธีการพูดและการวางแผนของตัวเอก ได้เห็นเรื่องราวความรักดราม่าระหว่างตัวเอกและน้องเรม ได้เห็นฉากลุ้นระทึกท้าความตายของเหล่าตัวละครในเรื่อง จนเราอุทานออกไปเลยว่า “ เออ ! นี่สิถึงสมกับเป็นอนิเมะแนวจิตวิทยา ระทึกขวัญหน่อย “ เชื่อได้เลยว่าใครที่สามารถผ่านเนื้อเรื่องห่วย ๆ ในช่วงแรกมาได้ คุณจะต้องรู้สึกประทับใจกับอนิเมะเรื่องนี้อย่างแน่นอน
ตัวละคร
ตัวละครในอนิเมะเรื่องนี้ถือว่ามีเยอะในระดับหนึ่ง พวกตัวหลักถือว่าทำออกมาได้ดี มีการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า แต่ละตัวละครนั้นมีลักษณะนิสัยยังไง เช่น สุบารุ เป็นคนโง่เง่า ปัญญาอ่อน คิดน้อย ทำก่อนแล้วค่อยคิด แต่กลับมีความกล้าหาญและความดีอยู่ในจิตใจ , เอมิเลีย หรือ สเตล่า เธอเป็นคนที่สุขุม เยือกเย็น มีการคิดก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไป , เรม เมดสาวผู้จงรักภักดีต่อเจ้านาย เป็นคนจิตใจอ่อนโยน เมตตา แต่อย่าทำให้เธอโกรธมาขึ้นเชียวล่ะ
นอกจากนี้ภายในเรื่องยังมีการแทรกปมอดีตของตัวละครบางตัวเพิ่มเข้ามาด้วย เพื่อช่วยให้คนดูได้อินไปกับประวัติและที่มาของตัวละครนั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น ตอนย้อนอดีตของคุณปู่ที่ทำงานอยู่ในปราสาทของรอสวาล และตอนย้อนอดีตของสองพี่น้องเรมกับแรม ก่อนที่จะเข้ามาทำงานอยู่ในปราสาท หลายคนอาจมองว่าส่วนนี้ไม่สำคัญ แต่สำหรับตัวผมแล้ว การที่อนิเมะเผยให้เห็นอดีต ที่มาที่ไปของตัวละคร มันช่วยให้เราอินกับตัวละครนั้นมากขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งเลยก็ว่าได้ แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ควรย้อนอดีตตัวละครเยอะจนเกินไป เพราะอาจทำให้คนดูเบื่อได้ ซึ่งอนิเมะเรื่องนี้ก็ถือว่าใส่เรื่องราวในอดีตของตัวละครมาได้แบบพอดิบพอดี ไม่มากเกินไป และไม่น้อยเกินไป
แต่ขอติในส่วนของการกระจายบทตัวละคร หลายคนที่เคยดูมาแล้วจะสังเกตเห็นได้เลยว่า เขาแบ่งบทได้ไม่เท่าเทียมกัน คือเขาจะใส่ความโดดเด่นของตัวละครออกไปตามแต่ละช่วง ไม่ได้แบ่งให้มันเท่ากัน ยกตัวอย่างเช่น ช่วงต้นถึงกลางเรื่อง เอมิเลีย หรือ สเตล่า จะเด่นเทียบเคียงตัวเอก แต่พอช่วงท้ายกลับหายไปเฉยเลย หายไปชนิดที่เเบบว่าใครที่เชียร์หรือชอบตัวละครตัวนี้ ต้องไม่พอใจกันอย่างแน่นอน ส่วนช่วงกลางค่อนไปทางท้ายเรื่อง น้องเรมจะมีบทเด่นขึ้นมาเเทน และในระหว่างการดำเนินเรื่องก็จะมีตัวละครเสริมหรือตัวละครหลักอื่น ๆ แทรกตามมาบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ตัวเอกมากกว่า เพราะตัวเอกอย่าง สุบารุ มีหน้าที่ในการดำเนินเรื่อง
เสียง
เพลงเปิดและเพลงปิดของอนิเมะจะแบ่งออกเป็นสองช่วง คือต้นและท้าย แต่ละช่วงถือว่าทำออกมาได้ดีมาก เพลงเพราะใช้ได้เลย ความพิเศษคือมีการนำนักพากย์เข้ามาร้องเพลงด้วย เช่น คนพากย์เอมิเลีย ได้มาร้องเพลงปิดช่วงท้ายของเรื่องให้ และคนพากย์น้องเรม ก็ได้มาร้องเพลงประกอบตัวละครของตัวเองด้วยเช่นเดียวกัน เพลงเปิดเเละปิดของอนิเมะเรื่องนี้ส่วนใหญ่จะเป็นแนวตื่นเต้นบีบอารมณ์ ช่วยให้คนดูอินไปกับเนื้อเรื่องได้ ซึ่งในส่วนของเพลงประกอบเองก็ถือว่าทำออกมาดีไม่เเพ้กัน นำไปใส่ให้เข้ากับบรรยากาศภายในช่วงนั้นได้อย่างเหมาะสม และในส่วนของนักพากย์เองก็พากย์ได้ดีมาก ใส่อารมณ์ จนทำให้เราอินไปกับตัวละครได้
ยกตัวอย่างฉากของเรม ที่หลายคนตราตรึงใจกัน ฉากนั้นถือว่าเสียงพากย์บีบหัวใจและน้ำตาของคนชอบเรมได้เยอะเลยทีเดียว เเต่ส่วนตัวผมออกจะรำคาญนิดหน่อยกับเสียงพากย์ของตัวละครที่ชื่อว่า รอสวาล คือเขาพากย์ดีนะ แต่มันทำเสียงยานบ่อยไป จนเราเกิดความรำคาญ เห็นตัวละครตัวนี้โผล่มาทีไรแทบไม่อยากจะดูกันเลยทีเดียว นี่ไม่อยากคิดเลยว่าถ้ามีพากย์ไทยออกมา คนพากย์เขาจะรู้สึกตลกมากแค่ไหนเวลาที่จะต้องพากย์เสียงเจ้าตัวนี้
สรุป
Re:Zero รีเซทชีวิต ฝ่าวิกฤติต่างโลก เป็นอนิเมะที่ทำเนื้อเรื่องช่วงแรกออกมาได้ห่วยบรม แต่รับรองเลยว่าถ้าคุณฟันฝ่าอุปสรรค ทนดูการวนลูปที่ไร้ค่า และทนการดูฉากไร้สาระมาได้ คุณจะต้องประทับใจกับเนื้อเรื่องช่วงหลังอย่างแน่นอน ถ้าถามว่าไม่ดูช่วงแรกแล้วข้ามมาดูช่วงหลังเลยได้ไหม.. ก็คงตอบว่าได้ แต่คุณอาจจะตกหล่นข้อมูลบางส่วนไป เพราะฉะนั้นถ้าให้แนะนำคือต้องดูช่วงแรกมาก่อน
ส่วนด้านตัวละคร คุณอาจจะขัดใจนิดหน่อยเรื่องการกระจายบท เพราะเขากระจายบทได้ไม่เท่ากัน ช่วงแรกตัวละครที่เด่นจะเป็นเซทหนึ่ง ช่วงหลังตัวละครเด่นก็จะเป็นอีกเซทหนึ่ง ต้องทำใจถ้าหากตัวละครเด่นนั้นบทมันหายไป
และสุดท้ายคือเรื่องเสียง อันนี้ดี ยกนิ้วโป้งให้เลย พากย์ได้อินกับตัวละครมาก ๆ โดยเฉพาะเรม แต่อาจจะมีรำคาญเสียงพากย์บางตัวบ้าง เช่น รอสวาล (เสียงยานเกินไป)หรือ สุบารุ (เสียงดังน่ารำคาญในช่วงแรก) เพลงเปิดเเละเพลงปิดเองก็สุดยอดมาก ๆ เเนะนำให้ฟังก่อนดูเนื้อเรื่อง เพราะมันจะช่วยให้คุณรู้สึกอินกับตอนนั้นมากขึ้นไปอีกได้
สำหรับการรีวิวอนิเมะ Re:Zero รีเซทชีวิต ฝ่าวิกฤติต่างโลก ก็ต้องขอจบลงแต่เพียงเท่านี้ หวังว่าเพื่อน จะชอบกันนะครับ ตอนนี้ผมมีโปรเจคอยากจะเขียนบทความเกี่ยวกับอนิเมะให้มากขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการรีวิว และบอกเล่าความรู้สึกหลังดู ส่วนตัวรู้สึกว่าตัวเองชอบการเขียนเกี่ยวกับเนื้อหาอนิเมะ เพราะมันได้ใส่ความชอบของเราลงไปในงานเขียน
ถ้าเกิดว่างานนี้ผ่านอนุมัติได้เรื่อย ๆ อนาคตโปรไฟล์ของนักเขียนไร้เงา คงต้องมีการรีวิวอะไรเกี่ยวกับวงการอนิเมะ มังงะ เกม เพิ่มขึ้นมาอย่างแน่นอน เพราะทั้งสามหัวข้อนี้ ผมสามารถดู เล่น และเก็บเกี่ยวความรู้สึกมาเขียนได้ด้วยตัวเอง ยังไงก็ขอฝากติดตามกันต่อไปด้วยนะครับ สำหรับวันนี้ผมต้องขอตัวลาไปก่อน ไว้พบกันใหม่ในบทความหัวข้อถัดไป ขอบคุณที่อ่านจนจบ สวัสดีครับ รี:ซีโร่ รีเซทชีวิต ฝ่าวิกฤติต่างโลก